วันเสาร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2561

วิธีการรับประทานข้าวแช่


เห็นถามกันเข้ามาพอควร......จะขอยกเอาคำสอนของคุณย่ามาไว้ที่นี่ก็แล้วกัน


แรกเริ่ม ก็ต้องเริ่มจาก
1.รับทานปลาแห้งกับแตงโมเสียก่อน ล้างปากก่อน เวลารับข้าวแช่ จะได้รับรู้รสชาติได้ถึงที่ทีเดียวล่ะ

2.ให้ตักข้าวสวยใส่ชาม รินน้ำหอมลงจนท่วม เติมน้ำแข็งเป็นเกล็ดหรือก้อนหรือจะใช้น้ำหอมแช่ในตู้เย็นก็จะชื่นใจดี คุณย่าท่านจะให้ทิ้งไว้สักครู่ ให้ข้าวนั้นได้ซึมน้ำเข้าไปสักนิด ข้าวก็จะออกสีชมพูน้อยๆ จะสวยงามและหอมดีทีเดียว

3.อันนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก คุณย่าท่านจะกำชับหนักทีเดียว ท่านว่า คนที่ตักเครื่องข้าวแช่ใส่ลงในข้าว เรียกขานได้ว่า ไม่มีทั้งวัฒนธรรมมอญและไทย ที่ถูกที่ควร คือ ต้องตักเครื่องข้าวแช่อย่างใดอย่างหนึ่งใส่ปากกินก่อน พินิจพิจารณาในรสชาติของเครื่องข้าวแช่นั้นๆ แล้วจึงตักข้าวและน้ำตาม ต่อจากนั้นจึงหยิบผักใส่ปากเคี้ยวตามก็จะได้รสชาติดี กลมกล่อมอย่างบอกไม่ถูกทีเดียว โดยเฉพาะกระชาย กินอย่างนี้จึงจะเรียกว่า “กินเป็น กินถูกต้อง” อีกอย่างนะ ที่ไม่ให้ทำเช่นนี้ เพราะจะทำให้ความคาวของเนื้อปลาและเครื่องปรุงต่างๆ ลงปะปนอยู่ในถ้วยข้าวแช่จนหมดสิ้น หมดกันหมดท่า ทำให้น้ำลอยดอกไม้มีกลิ่นคาวไม่หอมชื่นใจ แถมขุ่นคลักจนหมดความน่ารับทานไป อย่าเที่ยวไปทำที่ไหนเทียวล่ะ ได้อายมาถึงชั้นกันพอดี....

4.ข้าวแช่ไม่ใช่ข้าวต้ม หล่อนเข้าใจใช่หรือไม่ ...จึงห้ามใช้ตะเกียบพุ้ยและอย่าเอาข้าวแช่ไปกินกับข้าวอื่นเป็นอันขาด ผู้ดีเค้าไม่พึงทำกัน เป็นว่าชั้นขอเสียเถิดนะ

5.ลูกกะปิ ควรรับทานคู่กับมะม่วงสด กระชายและขมิ้นขาวแนมกัน รสชาติจึงจะเข้ากันดี

6.พริกหยวกสอดไส้นี้ ก็ต้องรับทานคู่กับกระชายนะ ต้นหอมนี่แถมสักหน่อยก็จะเข้าท่า ช่วยเพิ่มกลิ่นรสและความหอมให้กับเครื่องเคียงได้เป็นอย่างดี

7.หอมแดงยัดไส้ ปลายี่สนผัดหวาน หมูสับปลากุเราเค็ม ไชโป๊ผัดหวาน จะแนมกับต้นหอมหรือแตงกวา แล้วตามด้วยใบพริกชี้ฟ้านี่ก็เข้าทีทั้งนั้นนะ ถึงขั้นอร่อยทีเดียว

8.หลังจากรับข้าวแช่กันเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมของหวาน แช่ไว้ให้เย็นดีทีเดียว จะได้สดชื่นคลายร้อนกันไป

9.ถ้าหล่อนอยู่เพียงผู้เดียว จะกินอย่างไร ท่าไหน อะไรก่อนหลัง จะลิงโลดอย่างไร ก็สุดแล้วแต่หล่อนเถิดย่ะ เพียงแต่หากรับทานร่วมกับผู้อื่นที่ไม่ใช่เครือญาติ เป็นว่า"ชั้นขอเถิดนะ อย่าให้คำนินทานั้นกระเด็นมาถึงตัวชั้นเลย ชั้นไม่อยากรับ ไม่ต้องปันมาให้ดอกนะ เข้าใจใช่หรือไม่.....พร้อมกับฟาดไม้เรียวลงกระดาน1ที".......เป็นอันว่าจบแบบแอบขำในใจ......

วันจันทร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2560

คนชอบกินเห็ดต้องอ่านให้จบ


คนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด ?
คนขายเห็ดไม่กินเห็ด ?

เห็ดนานาชนิด ที่เรารู้จักและคนก็ชอบกิน เพราะรสชาติที่อร่อยกินง่าย และเรารู้แต่ประโยชน์ที่มีอยู่ในเห็ดมากมาย แต่เราไม่เคยรู้ถึง....ผลเสียของเห็ด

หมายเหตุ เห็ดที่พูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึง ทุกโรงเพาะเห็ดหรือเห็ดทั้งหมด  แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า เห็ดชนิดใดที่ปลอดภัย จึงอยากให้ทุกคน โปรดใคร่ครวญพิจารณา ยังไม่มีนักวิชาการคนใด พูดถึงผลเสียของเห็ด เราจะรู้กันแต่ประโยชน์ของเห็ด โดยเฉพาะถ้าเรากินเห็ด 3 ชนิดจะช่วยป้องกันมะเร็งและมีผลดีต่อสุขภาพ แต่เราไม่เคยรู้ที่มาที่ไป  จากผลเสียที่ติดมากับเห็ดเลย จนมาวันนี้  ได้คุยกับคนขายเห็ดโดยเฉพาะเห็ดนางฟ้า 

วันนี้เรื่องราวนี้ที่จะมาเล่า คำพูดคือความจริงทุกคำ ถ้าทุกผู้อ่านช่วยส่งต่อเอาบุญ จะเป็นประโยชน์อย่างมาก  ขอให้ทุกคนที่ชอบกินเห็ด  ได้ป้องกันที่ตัวเรา  ว่าเราควรจะกินเห็ดต่อไปหรือจะเลิกกินเห็ด  จะได้ป้องกันตนเองจากโรคร้ายที่จะตามมาจากรูปแบบที่เราไม่คาดคิดไม่ถึง 

จากการได้คุยเปิดใจ  กับคนขายเห็ดหรือคนเพาะเห็ดขาย  คุณมนัสมีอาชีพขายเห็ด ขายส่งต่อกับพ่อค้าแม่ค้าต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทำมาจนเข้าปีที่ 20 สิ่งหนึ่งที่รู้ในใจคือ จะไม่ให้ลูกและครอบครัวตัวเองกินเห็ดที่ขายเลย

จนกระทั่งผลที่สุด....ร่างกายตัวเองทรุด หมดเรี่ยวหมดแรง ทั้งที่ไม่มีโรคประจำตัว เป็นมาแบบนี้มาเป็นเดือน ๆ จนไปให้หมอตรวจร่างกาย หมอบอกว่าผลเชื้อมะแร็งในกระแสเลือด แต่หาจุดที่เป็นไม่เจอ
แต่ฟังจากหมอพูดว่า  มะแร็งถ้าเป็นระยะที่ 1 หรือที่ 2 คงไม่พบ นี่อาจจะเป็นระยะ 3 หรือ 4 แต่หมอก็ยังเช็คไม่ได้ว่าเป็นตรงใหน คุณมนัสก็กลับบ้านมาด้วยใจหดหู่หมดกำลังใจ แต่มีลูกที่น่ารักถึง 7 คน  มีภรรยาที่น่ารัก  แม่พ่อและญาติที่รักอีกหลายชีวิต ที่จะทำให้ต้องสู้กับโรคร้าย 

จนกระทั่งคุณมนัสได้เปิดใจ เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนเลยคือ สาเหตุที่ทำให้เป็นมะแร็ง คือน่าจะมาจากสาเหตุ  จากการสูดดมสารในตัวเห็ดที่ตัวเองต้องทำขายทุกวันนั้นเอง  เราถามว่าทำไมถึงทำให้คิดอย่างนั้น คุณมนัสเลยเล่าให้ฟังว่า การปลูกเห็ดนางฟ้าหรือเห็ดเข็ม  จะต้องใช้ยาฆ่าหนอนหรือยาฆ่าแมลง และต้องใช้เป็นจำนวนมากทุกรอบ  ที่ต้องการผลผลิตที่มากและดี ต้องไม่ให้มีหนอนและแมลง 

แล้วคุณมนัสไม่รู้หรือถึงได้เอามาขาย 
คุณมนัสตอบรู้ครับ เลยไม่ให้คนในครอบครัวกินเลย รวมทั้งเพื่อนพ้องที่ตัวเองรักก็ไม่แนะนำให้กิน
เพื่อนบางคนถามผมว่า  ทำไมไม่เอาเห็ดมาฝากบ้าง ทั้งที่มีอาชีพขายส่งเห็ด  ในใจผมรู้แต่ไม่รู้จะตอบเพื่อนว่าไง แต่ไม่เคยเอาเห็ดนางฟ้าไปฝากใครเลย

จนมาวันนี้เหมือนกับว่า  สิ่งที่เจอจะเป็นเวรกรรมที่เราไม่ได้ตั้งใจหรือไม่  ที่มาทำให้เป็นมะแร็ง ทั้งที่ไม่ได้กินเห็ดนางฟ้า ครอบครัวก็ไม่เคยกินเห็ดนางฟ้าหรือเห็ดเลย แต่ส่งขายให้คนกินทั้งประเทศ เวรกรรมจะมาย้อนที่หรือไม่

จึงถามไปว่าทำไมถึงคิดอย่างนั้น คุณมนัสเล่าต่อว่า

ก่อนที่จะเป็นแบบนี้  เขาได้เห็นเจ้าของโรงเพาะเห็ด  ที่ส่งเห็ดมาให้เป็นประจำ  เป็นมะแร็งเต้านมและตัดเต้านมไปแล้ว และก็ไม่รู้ว่าจะหายหรือไม่  และลูกน้องที่ทำงานกับโรงเพาะเห็ด  ก็มีอาการเจ็บป่วยไปทีละคนสองคนอย่างต่อเนื่อง และทุกคนที่ทำงานโรงเพาะเห็ด  แต่ละคนมีใครสุขภาพไม่ดีกันเกือบทุกคน   คุณมนัสไม่ได้เพาะเห็ดเอง แต่ผมเป็นผู้รับมาจำหน่ายต่อ  ซึ่งล่าสุดก็มาพบเชื้อมะแร็งในกระแสเลือด
จากนั้นจึงตั้งคำถามไปว่า  เพราะอะไรที่ทำให้ทุกคนที่ทำงานตรงจุดนี้  จึงมีร่างกายไม่แข็งแรง  

คุณมนัสเลยเล่าให้ฟังว่า การเพาะเห็ดต้องใช้ยาสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหนอนอย่างมาก  อาจจะเป็นเพราะเจ้าของโรงงานเพาะเห็ดและลูกน้อง  ต้องสูดดมสารเคมีเหล่านั้น  ถึงแม้คนปลูกเห็ดจะไม่กินเห็ด  คนขายเห็ดไม่กินเห็ด  แต่การสูดดมสารพิษพวกนี้ทุก ๆ วัน. มันก็สะสมในร่างกาย พอสะสมมาก ๆ ทุกวัน ๆ เลยมาแสดงอาการตอนมันเต็มที่แล้ว

เมื่อขายเห็ดให้คนกินทั้งประเทศ  แล้วผลเสียที่มีต่อคนอื่นต่อประชาชนคนที่ไม่รู้  เราก็จะเป็นบาปโดยที่ไม่รู้ตัวไหม

เลยย้อนถามคุณมนัสว่า คุณมนัสเชื่อเรื่องเวรกรรมไหม โดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวร คุณมนัสตอบมาวันนี้เข้าใจและเชื่อเรื่องเวรเรื่องกรรม หลังจากเจอด้วยตัวเอง และคุณมนัสฝากบอกมาว่า ให้ประชาชนทุกคนจงรู้ว่า

เห็ดถึงมีประโยชน์มาก แต่ก็มีโทษที่แอบแฝงมามากเช่นกัน เพราะถ้าคนที่เพาะเห็ดขายเพื่อหาผลกำไรมาก หรือต้องการกำไรมาก ก็จะใช้ยาฉีดที่เป็นอันตรายมากต่อสุขภาพ โดยเฉพาะคนที่ชอบกินเห็ด เริ่มแรกอาจมีผลข้างเคียง แต่นานไปถ้าสะสมมาก ๆ ก็จะเป็นเหมือนเจ้าของโรงเพาะเห็ดและคุณมนัสผู้ขายส่งต่อ หรือคนใกล้ชิดที่ทำอาชีพนี้  ซึ่งแต่ละคนก็มีสุขภาพที่ย่ำแย่กันทุกคน

เรื่องราวนี้เล่าฟังนี้  ขอให้ประชาชนผู้บริโภค ได้เตรียมพร้อมและรู้ทัน  ว่าควรกินเห็ดต่อหรือควรหลีกเลี่ยงการกินเห็ด เนื่องจาก
คนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด 
คนขายเห็ดไม่กินเห็ด
เพราะแบบนี้นี่เอง

โปรดส่งต่อเป็นวิทยาทาน

วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ประโยชน์ของเศษสบู่ก้อน


เศษสบู่ก้อน อย่าคิดว่าไร้ประโยชน์ รวมทริคที่คุณควรรู้ ใช้ดีจนต้องบอกต่อ!

เศษสบู่ก้อนเล็ก ๆ ที่เหลือจากการใช้งาน มักเป็นสิ่งที่คนทั่วไปโยนทิ้งลงถังขยะ เพราะเอาไปใช้ต่อก็ไม่ได้ จับไม่ถนัด ไม่มีฟอง ใช้แล้วเหมือนไม่ได้ใช้ วันนี้เรามีวิธีที่จะช่วยเพิ่มประโยชน์ของสบู่ก้อนเหลือๆเหล่านี้กัน ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้ค่ะ

ประโยชน์มากมายของสบู่ก้อนเหลือใช้

1.ปรับรองเท้าหนังให้นุ่มใส่สบาย ใครกำลังหนักใจกำปัญหารองเท้ากัด ปัญหานี้แก้ได้ไม่ยากแค่นำก้อนสบู่ที่ไม่ใช้แล้วมาถูด้านในของรองเท้า สบู่จะช่วยปรับสภาพหนังรองเท้าที่แข็งให้นุ่มลงได้ และช่วยให้กลายเป็นรองเท้าที่ใส่สบายมากขึ้น ไม่ต้องมีแผลเหวอะหวะตามมาทีหลัง

2. หยอดบานพับประตูบ้านช่วยลดแรงเสียดทาน ใครรำคาญเสียงเอี๊ยดอ๊าดของบานพับประตูบ้าน ที่น่ารำคาญทุกทีที่เปิด-ปิด ให้นำสบู่ก้อนแช่น้ำมาถูบานพับให้ทั่ว หรือเอาเศษสบู่ก้อนผสมกับน้ำเปล่าเล็กน้อย แล้วนำมาหยอดที่บานพับประตูที่มีเสียง แค่นี้เสียงเอี๊ยดอ๊าดก็จะหายไปได้แล้ว

3. ดับกลิ่นอับในกระเป๋าหรือเสื้อผ้า เอาสบู่ก้อนที่ไม่ใช้แล้วแพ็กใส่ลงไปในกระเป๋าด้วย จะเอาไว้มุมใดมุมหนึ่งหรือจะใส่ถุงตาข่ายตาถี่ ๆ แขวนไว้ด้านใน ก็จะช่วยกำจัดปัญหาเรื่องกลิ่นได้แน่ๆ

4.ป้องกันเศษดินติดซอกเล็บ ก่อนลงมือขุดดิน ถอนหญ้า ปลูกต้นไม้ ให้นำสบู่ก้อนเล็ก ๆ มาถูตามซอกเล็บโดยไม่ต้องล้างออก เศษสบู่ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เศษดิน เศษหิน หรือของสกปรกเข้าไปติดอยู่ในซอกเล็บได้ ล้างออกง่ายกว่า แถมไม่ต้องเสี่ยงติดเชื้อโรคด้วย

5.เคลือบตะปูกันเนื้อไม้แตก ถ้าอยากให้ตะปูตอกง่าย ซ่อมบ้าน สร้างบ้าน หรืองาน DIY ทำได้ไม่ยากเย็น ก็ลองใช้สบู่ก้อนมาถูที่ตะปูเพื่อเคลือบผิวเอาไว้ ตะปูก็จะตอกง่ายขึ้นแน่นอน แถมไม่ทำให้เนื้อไม้แตกขณะใช้ค้อนตอกด้วย

6. ช่วยเก็บเศษแก้ว หากมีเแก้วแตก เศษแก้วเล็กๆที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าสามารถกำจัดออกได้ด้วยสบู่ก้อนเหล่านี้ เพียงแค่นำสบู่ก้อนเล็กที่ไม่ใช้แล้ว มาถูลงบนพื้นที่มีเศษแก้วแตกให้ทั่ว เศษแก้วชิ้นเล็ก ๆ เหล่านั้นก็จะเข้าไปอยู่ในก้อนสบู่จนหมดเกลี้ยง ไม่เหลือเอาไว้ให้บาดเท้าแน่นอน

7.แก้ปัญหาซิปฝืด หลายคนมักเจอปัญหาซิปฝืด ติดขัด จนแถมอยากจะโยนเสื้อผ้าตัวโปรดทิ้งไป ปัญหานี้จะหมดไปถ้าคุณใช้สบู่ถูลงบริเวณรางซิปให้ทั่ว จากนั้นรูดเบา ๆ ซิปที่เคยติดก็จะรูดขึ้นลงได้ง่าย จากนั้นอย่าลืมล้างคราบสบู่ออกด้วยนะคะ

8. ลอกวอลเปเปอร์เก่าทิ้งไป ใครกำลังคิดจะเปลี่ยนวอลเปเปอร์ แต่ของเก่ามันติดแน่นทนนานเหลือเกิน ก็ต้องใช้สบู่เป็นตัวช่วยลอกมันออกไป วิธีคือ การนำเศษสบู่เก่า ๆ ทั้งหลายมาละลายในน้ำร้อนให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำไปทาที่ผนัง ก็จะสามารถดึงวอลเปเปอร์ออกได้สบาย ๆ ไม่ต้องเสียเวลางัดแงะอีกต่อไป

9. ถูกุญแจฝืดให้ปลดล็อกง่าย หงุดหงิดมั๊ยค่ะเวลาที่ยืนไขกุญแจที่ประตูอยู่นานสองนาน ทำเท่าไรก็ยังไขไม่ออกสักที นั่นไม่ใช่เพราะกุญแจผิดดอกหรือกลอนพังอะไร แต่เป็นเพราะกลอนข้างในมันฝืดต่างหาก แค่นำสบู่มาถูกุญแจก่อนไขก็จะทำให้ช่วยปลดล็อกกลอนได้ทันทีแล้ว ลองทำดูสิค่ะ

10.เช็ดกระจกลดความมัวจากไอน้ำ ถ้ากระจกในห้องน้ำเริ่มมัวเพราะมีไอน้ำมาเกาะ เราสามารถป้องกันไอน้ำได้ด้วยสบู่ก้อนนี่ละ เพียงนำก้อนสบู่เก่าที่ไม่ใช้แล้วมาถูบนกระจก แล้วใช้ผ้าขนหนูเนื้อนุ่ม ๆ เช็ดออก กระจกก็จะกลับมาเงางามเหมือนเดิม ไม่ว่าจะอาบน้ำตอนไหนก็ไม่มีรอยไอน้ำเกาะอีกต่อไปแล้ว

อ่านจบแล้ว หลายคนอาจจะไม่เคยนึกเลยว่า สบู่ก้อนจะมีประโยชน์มากมายเพียงนี้ ใครมีสบู่ก้อนเก่า ๆ เหลือๆ ลองเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ดูสิค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก home.kapook.com
ที่มา : thaijobsgov